ความประทับที่ผู้เขียนได้ประสบนั้นเป็นช่วงของงานพิธีเปิดโครงการค่ะ ในขณะที่โต๊ะอีหม่านมัสยิดนูรูลฮูดาได้ออกมากล่าวนั้น สิ่งหนึ่งที่สามารถสังเกตได้คือ เสียงที่สั่นเครือด้วยความรู้สึกตื่นตันใจและแววตาที่ีเอ่อหนองไปด้วยน้ำตาแห่งความปลาบปลื้ม จากคำกล่่าวของโต๊ะอีหม่านมัสยิดนูรูลฮูดามีคำหนึ่งที่ประทับใจคือ " มัสยิดแห่งนี้มีการจัดเลี้ยงอาหารให้กับทุกคนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง แต่ทุกครั้งที่เขาได้เข้าไปที่โรงอาหารเขารู้สึกถึงความน้อยใจที่โรงอาหารยังไม่เสร็จสมบูรณ์สักที่ มีโอกาสที่จะสร้างให้สมบูรณ์ในหลาย ๆ ครั้งแต่ก็มีเหตุให้เลื่อนทุกครั้ง เขาจึงทำได้เพียงขอดุอา ขอพรจากอัลเลาะห์เท่านั้น และวันนี้อัลเลาะหฺ์ได้ให้คำขอพรของเขาเป็นจริง มีนักศึกษามาสร้างโรงอาหารให้เสร็จเรียบร้อย มาทำให้ความฝันของเขาและของประชาชนชาวกะลุวอเหนือเป็นจริง" หลังจากได้ฟังโต๊ะอีหม่านได้กล่าวไปนั้น ผู้เขียนน้ำตาแทบไหลค่ะ ตัวพองโตด้วยความปลาบปลื้มที่สุดค่ะ
ทุก ๆ ครั้งที่ผู้เขียนได้มีโอกาสไปค่ายอาสาที่นักศึกษาวิทยาลัยชุมชนนราธิวาสก่อนจบการศึกษานั้น ผู้เขียนมีความประทับใจกลับมาทุก ๆ ครั้ง สิ่งหนึ่งที่ได้เห็นนั้นก็คือ ความสามารถของนักศึกษาวิทยาลัยชุมชนนราธิวาส ในการเขียนโครงการค่ายอาสา การหาสถานที่ที่ต้องการ การพัฒนา ต้องการปรับปรุง จริง และที่สำคัญมากกว่านั้นคือ ความสามัคคี การร่วมมือ ระหว่างนักศึกษาวิทยาลัยชุมชนนราธิวาสและประชาชนในพื้นที่ในการทำโครงการให้ประสบความสำเร็จ
วันนี้ผู้เขียนได้นำรูปการทำโครงการ ค่ายพัฒนา ซ่อมแซม ต่อเติม อาคารโรงอาหาร ณ มัสยิดนูรูฮูดา ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส มาฝากค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น