วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2557

ตันหยงโปร์สถานที่น่าสนใจ

        ในวันจันทร์ ที่ 8 กันยายน 2557 คณะอุ๊สต๊าสได้ออกเดินทางจาก อ.มะนัง จ.สตูล เดินทางไปยัง ตำบลตันหยงโปร์ อ.เมือง จ.สตูล ค่ะ เพื่อไปศึกษาวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนตันหยงโปร์ ทางคณะเดินทางไปถึงตันหยงโปร์ ในเวลาประมาณ 18.00 น. การเดินทางเขา ตันหยงโปร์นั้นไม่สามารถเดินทางไปด้วยรถบัส ดังนั้นเราต้องเดินทางเข้าหมู่บ้านโดยใช้รถกระบะแทน โดยทางคณะได้จอดรถบัสไว้ที่ หมู่ 1 และเดินทางไปยังตันหยงโปร์ หมู่ 3 โดยใช้รถกระบะซึ่งเป็นรถของชาวชุมชนมารับ
        บรรยากาศในการเดินทาง มีฝนตกปรอย ๆ ทำให้บรรยายการภายนอกนั้นสวยไปในอีกรูปแบบหนึ่ง พอไปถึงที่พัก พี่บุหงาหัวหน้ากลุ่มแม่บ้านมาต้อนรับคณะอยู่ที่หน้าทางเข้า และนำคณะไปยังศาลาที่ใช้เป็นที่รับประทานอาหาร ซึ่งได้จัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย โดยเมนูที่ได้จัดไว้เป็นเมนูอาหารทะเล ที่ชาวชุมชนเตรียมไว้อย่างสุดฝีมือ  ที่สำคัญอาหารอร่อยมาก นอกจากอาหารอร่อยแล้วบรรยายการตอนฝนตกปรอย ๆ ใกล้ช่วงเวลาดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เป็นบรรยากาศที่สวย ทำให้แต่ละคนไม่พลาดที่จะถ่ายรูปเก็บไปฝากคนที่บ้านค่ะ
       ในช่วงเช้าของวันอังคาร ที่ 9  กันยายน 2557 ทางชุมชนได้จัดบรรยายในหัวข้อชุมชนเข้มแข็ง ซึ่งท่านแรกที่มาบรรยายให้ฟังคือ ท่านโต๊ะอีหม่านประจำหมู่บ้านค่า ท่านได้มาบรรยายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของบ้านตันหยงโปร์ โดยแต่เดิมบ้านตันหยงโปร์แต่เดิมมีชื่อว่าบ้านกันดาอายัต (บ้านกันดานน้ำ) และบอกถึงสาเหตุความเป็นมาของชื่อบ้านตันหยงโปร์ ต่อจากนั้นเป็นคิวของท่านประธานชุมชนมาพูดกล่าวถึงการเป็นมาของแนวทางในการพัฒนาชุมชนบ้านตันหยงโปร์ตั้งแต่แรกเริ่ม และต่อจากนั้นก็เป็นคิวของพี่บุหงาในการบรรยายต่อค่ะ
        หลังจากนั้นชาวคณะก็ได้มีโอกาสในการได้ไปพบปะชาวชุมชนตันหยงโปร์และแวะเวียนไปซื้อของที่ระลึกจากตันหยงโปร์ค่ะ

















วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2557

ล่องแก่งท้าความกล้า

      เรามาต่อจากบทความครั้งที่แล้วกันน่ะค่ะ......หลังจากที่เราได้ไปกันที่มัสยิดบ้านเหนือแล้วนั้น ในวันนั้นเราได้ตรงไปที่อ.มะนัง จังหวัดสตูล เพื่อไปทำกิจกรรมละลายพฤติกรรมกันที่ River side Resort ค่ะ โดยเราไปถึงที่พักประมาณ 18.00 น. แล้วร่วมกันรับประทานอาหารและพักผ่อนกันไปตามอัธยาศัย โดยผู้เขียนได้เข้าไปร่วมทำกิจกรรมละลายพฤติกรรมของกลุ่มอุ๊สต๊าสซะห์(อุ๊สต๊าสเป็นครูสอนศาสนาอิสลามที่เป็นเพศชาย , อุ๊สต๊าสซะห์เป็นครูสอนศาสนาอิสลามที่เป็นเพศหญิงค่ะ) โดยเราร่วมตัวกันที่ห้องนอนใหญ่ค่ะ ซึ่งเป็นห้องนอนที่นอนรวมกันค่ะ โดยกิจกรรมแรกคือเราร่วมตัวกันแล้วเล่าถึงความรู้สึกที่เราได้รับที่มัสยิดบ้านเหนือ และเล่าถึงประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ได้พบเจอในชีวิต พร้อมด้วยจัดปาตี้เล็ก ๆ ด้วยขนมนมเนยที่แต่ละคนพามา
      ในช่วงเช้าของวันจันทร์ ที่ 10 ทางคณะได้จัดกิจกรรมล่องแก่งกันค่ะ สนุกมาก สำหรับบางท่านที่ยังไม่เคยล่องแก่งก็ตื่นเต้น มาเตรียมตัวกันก่อนแล้วที่นัดไว้ เมื่อทุกคนพร้อมกันแล้วทางคณะก็ํเตรียมตัวขึ้นรถที่ทาง resort เตรียมไว้เพื่อไปที่จุดล่องแก่ง บรรยายกาศการล่องเก่งเป็นไปด้วยความสนุกสนาน และประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ได้รับจากการล่องแก่งครั้งนี้ หลังจากการล่องแก่งแล้วทางคณะก็ได้ไปพบปะพูดคุยกับชาวชุมชนเพื่อสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อกลับมาทำรายงานค่ะ
     จากการได้พูดคุยกันหลังจากการล่องแก่งทำให้ทราบค่ะว่า หลายๆ ท่านไม่เคยล่องแก่งมาก่อนครั้งนี้เป็นครั้งแรก สนุกมาก ได้ประสบการณ์มากมาย ได้ชมธรรมชาติที่สวยงาม ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ และที่สำคัญก็ได้ใกล้ชิดกับเพื่อน ๆ มากยิ่งขึ้น ได้รู้จักเพื่อนมากขึ้น มีความรู้สึกสนิทใจกับเพื่อน ๆ มากยิ่งขึ้น ถือเป็นประสบการณ์ที่ได้รับมาพร้อมกับเพื่อน ๆ ผู้เข้าร่วมโครงการ เป็นการเปิดประสบการณ์ความกล้าที่ไม่เหมือนทุกครั้ง (ในวันอังคาร ที่ 10 เราจะไปกันที่ไหนต้องติดตามอ่านกันน่ะค่ะ)







วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2557

มัสยิดบ้านเหนือความภาคภูมิใจที่น่ายกย่อง

         สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุก ๆ ท่าน ในวันอาทิตย์ ที่ 7 กันยายน -วันอังคาร ที่ 10 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา ทางผู้เขียนได้มีโอกาศได้ติดตามคณะโครงการอุ๊สต๊าส ที่มีชื่อโครงการเต็ม ๆ ว่า โครงการสมรรถนะครูผู้สอนอิสลามศึกษา ประจำปี 2557 ไปทัศนะศึกษาที่จังหวัดสงขลาและจังหวัดสตูล ค่ะ
         เราได้นัดคณะอุ๊ตต๊าสในการขึ้นรถในเวลา 7.00 น. โดยเราเริ่มเดินทางออกจากวิทยาลัยชุมชนนราธิวาสในช่วงเวลา 8.00 น. โดยมีการแวะรับผู้ร่วมเดินทางตามจุดต่าง ๆ ที่เราได้ตกลงกันไว้ล่วงหน้า โดยคณะอุ๊สต๊าสมีสีหน้าที่ตื่นเต้น เนื่องจากเป็นการไปทัศนะศึกษาครั้งแรกของคณะที่เข้าร่วมโครงการด้วยกัน ซึ่งอุ๊สต๊าสแต่ละท่านที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้ มาพร้อมกับลอกกองซีโป ซึ่งเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดนราธิวาส และเงาะโรงเรียนแสนหวาน ที่นำมาให้รับประทานกันในระหว่างการเดินทาง
       บรรยากาศในการเดินทางในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ค่อนข้างเงียบ เพราะในช่วงแรกหลายๆคนยังไม่กล้าที่จะพูดจากันเท่าไรนัก ถึงแม้จะเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนในโครงการมาแล้ว 3 เดือนก็ตาม  ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งแรกเลยที่ผู้นำคณะคิดวิธีการแก้ไข เพื่อที่จะทำให้บรรยากาศในการเดินทางมีความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น โดยการทำกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยให้ผู้เข้าร่วมเดินทางทุกท่านทำความรู้จักกันโดยเริ่มจากผู้นำคณะค่ะ และให้ทำความรู้จักกับเพื่อนที่นั่งรอบ ๆ ข้าง ก็ทำให้บรรยากาศในรถมีความสนุกมากยิ่งขึ้น
      เวลาประมาณ 11.00 น.คณะก็เดินทางไปถึงมัสยิดบ้านเหนือ เพื่อไปศึกษาวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านเหนือ ในที่นี้ทางคณะได้ร่วมกันรับประทานอาหารกลางวัน ที่กลุ่มสตรีบ้านเหนือทำต้อนรับ ในวันนี้ทางคณะถือว่าโชคดีที่โต๊ะอีหม่านมัสยิดบ้านเหนือ ดร. วิสุทธิ์ บิลลาเต๊ะ มาบรรยาย สิ่งที่ผู้เขียนได้มาจากการฟังการบรรยายที่ประทับใจมากที่สุดคือ ชาวบ้านเหนือพึ่งพาตัว สังเกตได้อย่างเด่นชัดที่สุดคือ มัสยิดบ้านเหนือที่ดูใหญ่โตสวยงามนั้น เป็นความช่วยเหลือกันของชาวบ้านเหนือไม่ว่าทางกำลังทรัพย์และทางแรงงาน โดยทางกำลังทรัพย์นั้น ดร.วิสุทธิ์ ได้บอกไว้ว่า " มัสยิดบ้านเหนือใช้เวลากว่า 12 ปี ในการสร้างให้สมบูรณ์อย่างที่เห็นกันในวันนี้ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างถึง 25 ล้านบาท โดยเป็นเงินที่ได้รับการบริจาคจากชาวชุมชนบ้่านเหนือ โดยการจัดการกินนำ้ชาในทุก ๆ วันศุกร์ ที่มัสยิด แทนการไปกินกันตามร้านค้า ส่วนค่าน้ำชาก็แล้วแต่จะให้เพราะถือว่าเป็นการบริจาคเพื่อสร้างมัสยิดบ้านเหนือ โดยกิจกรรมจัดต่อเนื่องกันจนปัจจุบันนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชาวบ้านเหนือไปแล้วค่ะ (เป็นสิ่งที่น่ายกย่องที่สุดเลย น่าเอาไปเป็นตัวอย่างได้น่ะค่ะ เพราะสิ่งใดที่เกิดมาจากชุมชน ก็จะอยู่กับชุมชนไปนานแสนนาน) ส่วนทางด้านแรงงานนั้น ชาวชุมชนบ้านเหนือร่วมแรงร่วมใจในการก่อสร้าง ร่วมมือกันตามความถนัดที่ตนเองถนัด (เป็นภาพที่เห็นแล้วน่าประทับใจค่ะ) หลังจากได้ฟังการบรรยายจากท่านดร.วิสุทธิ์ บิลลาเต๊ะ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางคณะก็ได้ร่วมกันถ่ายรูปร่วมกันหน้ามัสยิดบ้านเหนือ หลังจากนั้นทางคณะได้ร่วมเดินไปศึกษาการใช้ชีวิตร่วมกันแบบพหุวัฒนธรรมของชาวบ้านเหนือ และได้พูดคุยสอบถามสาระทุกข์สุขดิบ แต่ใช้เวลาไม่นานมากนัก เพราะฟ้ามืดเมฆครึ้มค่ะ สักพักฝนตกหนักจนเราต้องรีบกันขึ้นรถเพื่อเดินทางกันต่อ (เราจะเดินทางกันไปต่อที่ไหนตั้งติดตามอ่านกันน่ะคร้า)